เมื่อธุรกิจรวบรวมผลผลิตทางการเกษตร
ในกลุ่มยางพาราจากสมาชิกมองไม่เห็นอนาคตและความยั่งยืน เพราะปัจจัยเชิงลบจาก “ราคา” สหกรณ์การเกษตรบ้านเชี่ยวหลาน
จึงเดินหน้าสู่ธุรกิจแปรรูปเพิ่มมูลค่า ลงทุนตั้งโรงงานแปรรูปหมอนยางพารา
แม้จะยังอยู่ในช่วงคลำหาความสำเร็จ แต่มีความเชื่อว่าได้เดินมาถูกทางแล้ว
ธุรกิจการผลิตหมอนยางพารา
มีที่มาจากวิกฤตการณ์ราคายางที่สมาชิกและสหกรณ์ประสบ
ประกอบกับนโยบายรัฐส่งเสริมให้มีการแปรรูปเพิ่มมูลค่า
สหกรณ์จึงลงทุนผลิตหมอนยางพารา ประกอบกับที่ตั้งของสหกรณ์นั้น อยู่ในแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของสุราษฎร์ คือ เขื่อนรัชชประภา
หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้ามาท่องเที่ยวในแต่ละปี ซึ่งสหกรณ์มองว่าตลาดหมอนยางพารา
จะสามารถจำหน่ายให้แก่กลุ่มนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี และมีการทำการตลาดผ่านเครือข่ายสหกรณ์การเกษตรในจังหวัดที่มีการเชื่อมโยงนำสินค้าไปช่วยกันขายในจังหวัด
นอกจากนี้ ยังมองไปถึงตลาดต่างประเทศ เพราะถึงแม้ในเบื้องต้นศักยภาพการผลิตยังมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก
แต่ถ้าเกษตรกรชาวสวนยางช่วยกันใช้หมอนยางพารา เริ่มจากคนในชุมชน ในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง ก็จะสามารถขยายไปยังพื้นที่จังหวัดที่ไกลขึ้น
และเมื่อช่วยกันใช้สินค้าจากยางพาราที่ผลิตกันขึ้นมาในประเทศ นั่นหมายความว่าจะทำให้ผลผลิตยางพาราที่ผลิตออกมานั้น
ถูกนำมาใช้แปรรูปและจำหน่ายในพื้นที่และในประเทศได้มากขึ้น
โดยไม่ต้องพึ่งพาการส่งออกในรูปของน้ำยางวัตถุดิบซึ่งมีราคาที่ถูกต่างชาติเป็นผู้กำหนด ดังนั้น
ก็จะสามารถทำให้เกษตรกรสามารถพึ่งตนเองได้เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้
ประเด็นสำคัญจึงต้องในลึกซึ้งถึงตลาดในพื้นที่ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพียงแต่การผลิตจะต้องทำให้มีต้นทุนต่ำที่สุดเพื่อให้มีต้นทุนไม่สูงมากนัก และสามารถจำหน่ายในราคาที่ไม่แพงก็จะทำให้มีคนสามารถซื้อใช้ในจำนวนเพิ่มมากขึ้นได้
สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
สหกรณ์การเกษตรบ้านเชี่ยวหลาน จำกัด 16 ม.4 ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฏร์ธานี
โทร. 077-346053
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น