คุณสิริมณี
มณีท่าโพธิ์ เกษตรกรรุ่นใหม่ในวัย
30 ต้นๆ ชาวนา บ้านท่าตาล อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก
ได้มีการรวมกลุ่มกันในชุมชน และช่วยกันยกระดับคุณภาพสินค้าเกษตร โดยมีจะเริ่มต้นจากการทำนาตั้งแต่ในปี
2552
ซึ่งเป็นอาชีพที่ได้รับการสืบทอดจากพ่อแม่ที่ได้เสียชีวิตไป จากเดิมที่ไม่เคยคิดที่จะทำนาเลยเพราะคิดว่าเป็นอาชีพที่ลำบากและมีรายได้น้อย จึงอยากทำอาชีพรับราชการมากกว่า
เพราะคิดว่าเป็นอาชีพที่มั่นคงและมีเงินเดือนประจำ
แต่การจากไปของพ่อและแม่รวมถึงไม่มีผู้สืบทอดมรดกในการประกอบอาชีพทำนา และไม่อยากให้ที่นาต้องรกร้างว่างเปล่าไปเฉยๆ จึงมีความจำเป็นต้องรับทอดมรดกที่นาและอาชีพการทำนาไปโดยปริยาย
คุณสิริมณี
ได้เล่าว่า
จุดเริ่มต้นของการขายข้าวผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ ได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา เนื่องจากในฤดูทำนาที่ผ่านมา ตนเองและเพื่อนเกษตรกรชาวนาในชุมชน ในหมู่บ้านของตนเองนั้น ได้รับการติดต่อจากนายทุนให้ปลูกข้าวหอมนิล
ซึ่งนายทุนดังกล่าวแจ้งว่าจะปลูกเป็นข้าวเพื่อสุขภาพ และเนื่องจากกระแสความนิยมด้านอาหารเพื่อสุขภาพจากผู้บริโภคทั่วไปเพิ่มมากขึ้น โดยชาวนาต้องซื้อเมล็ดพันธุ์จากนายทุน และได้จัดทำสัญญาซื้อขายระหว่างกันโดยนายทุนจะรับซื้อข้าวหอมนิลจากชาวนาในราคาตันละ
1 หมื่นบาท
ซึ่งชาวนาได้หลงเชื่อและลงทุนซื้อเมล็ดพันธ์ข้าวเปลือกหอมนิลจำนวนมาก
และตนเองก็เป็นหนึ่งในบรรดาเกษตรกรที่หลงเชื่อด้วย แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยว นายทุนกลับไม่มารับซื้อตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ ทำให้ชาวบ้านต่างก็เดือดร้อนกันอย่างหนัก และในขณะนั้นตนเองก็ต้องดูแลแม่ที่ป่วยหนักและต้องใช้เงินในการรักษาจำนวนมาก จึงต้องหาทางในการระบายข้าวที่มีอยู่
เพื่อให้ได้เงินมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆภายในครัวเรือนและการรักษาพยาบาลแม่ในขณะนั้น และด้วยความที่ตนเองมีความถนัดในการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย
ประกอบกับปกติใช้ช่องทางเฟสบุคติดต่อกับเพื่อนฝูงอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว
จึงได้ทดลองประกาศขายข้าวหอมนิลผ่านสื่อออนไลน์ ไปยังกลุ่มต่างๆ
และปรากฏว่าได้รับความสนใจจากผู้สั่งซื้อข้าวเป็นจำนวนมาก และมีความต่อเนื่อง จึงทำให้สามารถขายข้าวหอมนิลจนหมดกว่า 5 ตัน
ภายในระยะเวลาไม่ถึง 3 เดือน
และสามารถขายข้าวได้ตันละไม่น้อยกว่า 30,000 บาท อีกด้วย
คุณสิริมณี ยังได้เล่าเพิ่มเติมอีกว่า ขณะนี้ตนเองและกลุ่มเกษตรกรอีกจำนวน 11 คน ได้ทำการปลูกข้าวซึ่งเป็นข้าวอินทรีย์ทั้งหมด ซึ่งมีทั้ง
ข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมนิล ข้าวไรซ์เบอรี่ และข้าวเพื่อสุขภาพชนิดต่างๆ ซึ่งมีผลผลิตโดยรวมราวๆ 2-3 ตัน ร่วมกับการปลูกข้าวพันธุ์ กข. 15 โดยข้าวหอมมะลิและไรซ์เบอรี่สามารถเก็บเกี่ยวได้ปลายเดือนพฤศจิกายนของทุกปี จากนั้นจะนำข้าวเปลือกไปสีแปรและขายผ่านช่องทางแฟนเพจเฟสบุค โดยจำหน่ายข้าวไรซ์เบอรี่ได้ในราคากิโลกรัมละ 50 บาท ซึ่งข้าวไรซ์เบอรรี่ในตลาดโดยทั่วไปจะจำหน่ายในราคากิโลกกรัมละ
70 บาทขึ้นไป จึงได้รับความสนใจในการสั่งจองข้าวทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นอย่างมากจากทั่วทุกภาคของประเทศไทย
นอกจากนี้
ยังนับได้ว่าการขายข้าวผ่านระบบออนไลน์นั้น ถือเป็นการพลิกวิกฤตในการแก้ไขปัญหาเรื่องราคาข้าวตกต่ำได้เป็นอย่างดี
เพราะสามารถกำหนดราคาขายเองได้และสามารถขายข้าวได้ถึงตันละ 35,000
บาทขึ้นไป และในช่วงที่ขายข้าวนาปี ยังสามารถขายข้าวได้ถึง 20-30 ตัน
ต่อเดือนอีกด้วย ดังนั้น คุณสิริมณี
จึงอยากฝากไปถึงชาวนาหรือเกษตรกรรุ่นใหม่ว่าการทำนาไม่ใช่อาชีพที่ต่ำต้อน และยังเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ สร้างความสุขให้ครับครอบครัวได้อย่างพอเพียงและมีความสุข
เนื่องจากปัจจุบัน
ผู้บริโภคมีความใส่ใจในรายละเอียดเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ข้าวตรา “สิริมณีไรซ์” จึงได้ใส่ใจในการคัดสรรข้าวคุณภาพและบรรจุลงในบรรจุภัณฑ์สวยงาม รวมถึงยังได้ปรับปรุงบรรจุภัณฑ์เพื่อขายเป็นของขวัญช่วงเทศกาลต่างๆอีกด้วย
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งซื้อสินค้าได้ที่
คุณสิริมณี มณีท่าโพธิ์
บ้านเลขที่
58 หมู่ 8 บ้านทุ่งน้อย ต.ท่าตาล
อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก
LINE:
Sirimanee_beer
Tel:0839607274,0957634787
Fanpage
Facebook: https://www.facebook.com/sirimanee.maneethapho?fref=ts
****************************************
ติดตามข้อมูล SME เกษตร
ธ.ก.ส. เพิ่มเติมได้ที่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น