พยัคฆ์คอฟฟี่ (Payak Coffee) กาแฟอินทรีย์เกรดส่งออก


วิสาหกิจพยัคฆ์กาแฟอดีตครูจับมือชาวบ้านใช้ พระบรมราโชวาทนำทาง ฝ่ากระแสข้าวโพด ปลูกกาแฟฟื้นป่าต้นน้ำแม่แจ่ม ส่งผลผลิตกาแฟอินทรีย์ป้อนยี่ห้อดังต่างประเทศได้ปีละนับล้านบาท
  

ความเป็นมาธุรกิจ
          กลุ่มวิสาหกิจพยัคฆ์คอฟฟี่ (Payak Coffee) ต.กองแขก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ที่เกิดจากการรวมกลุ่มของชาวบ้านในพื้นที่ 6 ตำบลของ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ หลังจากในอดีตที่ผ่านมาชาวบ้านได้แผ้วถางป่าจนเกิดภูเขาหัวโล้นในพื้นที่เป็นจำนวนมาก เพื่อปลูกข้าวโพดขายให้นายทุน แต่ปัญหาที่ตามมาคือป่าไม้ถูกทำลายและและมีสภาพแห้งแล้ง และปัญหาหมอกควันไฟจากการเผาไหม้ของตอซังข้าวโพด ต่อมาทางชาวบ้านได้รวมตัวกันก่อตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนพยัคฆ์กาแฟ เพื่อปลูกกาแฟทดแทนการปลูกข้าวโพด ขณะนี้กำลังเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตกาแฟกันท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็นหมอกปกคลุม โดยเกษตรกรเครือข่ายแต่ละรายต่างเร่งนำผลผลิตกาแฟที่ออกมากในปีนี้ มาส่งให้วิสาหกิจชุมชนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อทำการแปรรูป เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนคัดเมล็ดพันธุ์ ล้าง และสีเมล็ด ก่อนนำไปตาก สีสารแล้วถึงนำส่งโรงคั่ว นอกจากนี้ บริเวณที่ตั้งสำนักงานยังเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวมากางเต็นท์เพื่อชมความงามของทะเลหมอก


          เครือข่ายสมาชิกวิสาหกิจพยัคฆ์คอฟฟี่ (Payak Coffee) รวมกลุ่มปลูกกาแฟ จนสามารถส่งออกผลผลิตป้อนกาแฟยี่ห้อดังในต่างประเทศถึง 3 ราย ทำรายได้ปีละกว่าล้านบาท กำลังเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตกาแฟกันมือเป็นระวิง ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็น หมอกปกคลุมยอดดอย
   
          สำนักงานวิสาหกิจพยัคฆ์คอฟฟี่ ได้นำพระบรมราโชวาท 4 ธ.ค. 2548 จากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ฉบับวันที่ 5 ธันวาคม 2548 ใส่เข้ากรอบติดไว้ นายกฤษฎิ์ พยัคกาฬ ผู้ก่อตั้งและรองประธานกลุ่มฯ กล่าวว่า ได้ยึดมั่นพระบรมราโชวาทนี้เป็นแนวทางปฏิบัติ ก่อตั้งวิสาหกิจผู้ปลูกกาแฟ 6 ตำบล รักษาป่าต้นน้ำ สู้การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของกลุ่มนายทุน ที่ทำลายป่าเป็นภูเขาหัวโล้นหลายแห่งจนสำเร็จ
          นายกฤษฏิ์ พยัคกาฬ เปิดเผยว่า ผลผลิตในหลายปีที่ผ่านมามีผลผลิตออกเป็นจำนวนมาก จากเดิมมีปริมาณเพียง 3 หมื่นกิโลกรัมต่อปีเท่านั้น แต่ตอนนี้สมาชิกของเราส่งมา 6-8 หมื่นกิโลกรัม และคาดว่าจะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
   

          เกษตรกรเครือข่ายแต่ละรายต่างเร่งนำผลผลิตกาแฟที่ออกมากในปีนี้ มาส่งให้วิสาหกิจชุมชนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อทำการแปรรูป เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนคัดเมล็ดพันธุ์ ล้าง และสีเมล็ด ก่อนนำไปตาก สีสารแล้วถึงนำส่งโรงคั่ว ซึ่งปีนี้ผลผลิตออกมามากกว่าปีที่ผ่านมาราคาหลังการคั่วแล้วจะจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 450-500 บาท ซึ่งก็เป็นที่พึงพอใจของสมาชิกเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟทุกคนอย่างมาก ยอมรับว่าปีนี้ผลผลิตกาแฟออกมาดีมากกว่าหลายปีที่ผ่านๆ มาถึง 2 เท่าทีเดียว
          ที่ผ่านมา คนแม่แจ่มปลูกกาแฟกันทุกตำบล ผ่านทางโครงการพัฒนาชาวเขา ที่พระเจ้าอยู่หัว ส่งเสริมให้ชาวเขาปลูกตั้งแต่ปี 2524 ทดแทนการปลูกฝิ่น และพืชเสพติดต่าง ๆ แต่ผลผลิตไม่แน่นอน กระทั่งราวปี 2543 กาแฟเกือบหมดดอยแม่แจ่ม กลายเป็นป่าข้าวโพดหมด ขณะที่การปลูกกาแฟ ตามแนวทางพระองค์ท่าน จะได้ป่า ได้ความชุ่มชื้น จึงเริ่มชักชวนเพื่อนบ้านรวมกลุ่มกันปลูกกาแฟ
   
          โดยเริ่มจาก ต.กองแขก ที่พระองค์ท่าน นำกาแฟกล้าแรกเข้ามาที่นี้แล้ว และสมเด็จพระราชินีฯ ยังทรงทำเรื่องของป่าต้นน้ำ ที่บ้านโม่งหลวง ต.กองแขก ทั้งยังมีโครงการของศิลปาชีพ ผ้าทอมือของกระเหรี่ยง ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีอยู่ ดังนั้นในเรื่องของตำบลกองแขก เราขยายผลไปอีก 5 ตำบลคือ ต.ท่าผา ต.ช่างเคิ่ง ต.ปางหินฝน ต.แม่นาจอน และ ต.แม่ศึก มีสมาชิกเครือข่ายแล้ว 156 ครัวเรือน



ผลิตภัณฑ์และแนวคิดการปลูกกาแฟ
          ปัจจุบันนี้สมาชิกของเราทุกคนอยู่ได้และจะน้อมนำเกษตรอินทรีย์ปลอดสารพิษมาใช้อย่างต่อเนื่อง โดยนายกฤษฎิ์บอกว่า ปรัชญาของวิสาหกิจพยัคฆ์กาแฟ คือ การดูแลธรรมชาติ และให้คนอยู่กับป่าได้ ซึ่งกาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดเดียวที่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านอยู่กับป่าได้ ตามแนวทางบ้านเล็กในป่าใหญ่ ที่ให้คนอยู่กับได้อย่างยั่งยืน ไม่ขับไล่เขาออกไปจากป่า
    
          นายกฤษฏิ์ พยัคกาฬ เปิดเผยว่า ผลผลิตกาแฟปีนี้ออกมามาก ปีนี้จะไม่ต่ำกว่า 80,000 ถึง 100,000 กิโลกรัม ราคาประกันกาแฟเชอรี่ของสมาชิกอยู่ในราคาที่สูง ชาวบ้านมีความสุขมาก ปีนี้กลุ่มเราคั่วกาแฟขายและขายเป็นสารกาแฟ มีร้านวิสาหกิจของพยัคฆ์กาแฟตั้งอยู่ในส่วนราชการของอำเภอแม่แจ่ม ซึ่งเป็นความร่วมมือในกิจกรรม สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ตั้งอยู่ที่ว่าการอำเภอแม่แจ่ม ธนาคาร ธ.ก.ส.สาขาแม่แจ่ม และโรงเรียนราชประ 31 นอกจากนี้บริเวณพื้นที่สำนักงานยังทีลานกางเต็นท์ ห้องโฮมสเตย์รองรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมทะเลหมอกอย่างใกล้ชิดด้วย โดยนอกจากชมความงามของหน้าหนาวแล้ว ยังสัมผัสวิถีชีวิตของชาวปกาเกอะญอ หรือชาวกะเหรี่ยง และได้ชิมกาแฟสดจากไร่ด้วย โดยของเราปลอดสารพิษเจือปน เป็นธรรมชาติแท้


          นายกฤษฎิ์กล่าวอีกว่า ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาวิสาหกิจพยัคฆ์กาแฟ สามารถส่งผลผลิตป้อนกาแฟยี่ห้อดังในต่างประเทศแล้ว 3 ราย ทำรายได้กว่า 1 ล้านบาทแล้ว และในปีนี้ก็จะเริ่มระบบการออมเพื่อนำดูแลสมาชิกยามจำเป็น รวมทั้งลงทุนสร้างโรงคั่วกาแฟขึ้นเองในระยะเวลาอีกไม่นานนี้อีกด้วย  แต่ในขณะนี้ได้ขอสินเชื่อ SME เกษตร เพื่อลงทุนซื้อเครื่องคั่วกาแฟจาก ธ.ก.ส. มาแล้วอีกด้วย


ติดต่อสอบถามและขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
นายกฤษฏิ์ พยัคกาฬ     
ที่อยู่:  178 ม. 2 ต.กองแขก  อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
โทรศัพท์:   08-5621-5515
Line@ : Payak Coffee
FB. : Payak Coffee

*****************************************
ติดตามข้อมูล SME เกษตร ธ.ก.ส. เพิ่มเติมได้ที่
เฟสบุคแฟนเพจ  “SMAEs CLUB”  URL: https://m.facebook.com/smaesbaac/
เว็บไซต์ URL: https://smaesclub.com/



ความคิดเห็น