สวนละไมปรับเปลี่ยนสวนผลไม้จากการปลูกผลไม้เพื่อจำหน่าย
พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเปิดให้ผู้ที่สนใจศึกษาธรรมชาติเข้าชมสวนผลไม้ ดอกไม้นานาชาติ
บนพื้นที่กว่า 500 ไร่ รองรับนักท่องเที่ยวประมาณปีละ 60,000 คน โดยมีบริการบุฟเฟ่ต์ผลไม้เที่ยวชมฟาร์มแกะ
ไร่สตรอเบอร์รี่ แปลงผักไฮโดรโปนิกส์ ถ่ายรูปจุดชมวิวก่อให้เกิดการจ้างแรงงาน และกระจายรายได้สู่ชุมชนจำนวนแรงงานในท้องถิ่น
140 คน จำนวนเกษตรกร 53 คน
มีการรวบรวมรับซื้อผลไม้ทุเรียน มังคุด เงาะและลำไยจากเกษตรกรรายย่อยในพื้นที่จำนวน
53 ราย โดยผ่านผู้รวบรวมหลักจำนวน 4 ราย ปริมาณประมาณปีละ 170 ตัน มูลค่า 11 ลบ.เพื่อนำมาให้บริการบุฟเฟ่ต์ผลไม้และจำหน่ายเป็นของฝากแก่นักท่องเที่ยวโดยจะมีการตรวจสอบคุณภาพและแปรรูปผลไม้ที่ตกเกรด สวนละไม ก่อให้เกิดการจ้างแรงงานในพื้นที่เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชนเป็นอีกหนึ่งช่องทางการตลาดให้แก่ผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกรในพื้นที่
สวนละไม เปิดบริการให้ลูกค้าและนักท่องเที่ยวทุกท่านเข้ามาสัมผัสบรรยากาศความสุข
และสนุกสนาน และการทานผลไม้แบบบุฟเฟ่ต์ ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติของสวนผลไม้บนภูเขา
ตั้งแต่เวลา 8:00-17.00 น. โดยกิจกรรมที่สวนละไม จะแบ่งตามฤดูกาลต่างๆของผลไม้ดังนี้
เดือน เมษายน - กรกฎาคม ของทุกๆปี จะเป็นช่วงฤดูร้อน หน้าผลไม้ เงาะ มังคุด ทุเรียน
สละ ลองกอง ลำไย ฯลฯ สวนละไมจะมีกิจกรรม "เที่ยวชมสวน และทานบุฟเฟ่ต์ผลไม้"
และช่วงปลายปี เดือน ธันวาคม - กุมภาพันธ์ ของทุกๆปี จะเป็นช่วงฤดูฝนและหนาว สวนละไมจะมีเปิดกิจกรรมเที่ยวไร่
สตอเบอร์รี่
ทุ่งดอกคอสมอส พร้อมด้วยสวนส้มเขียวหวาน สวนลำไย สวนดอกไม้
อย่างไรก็ตามกิจกรรมต่างๆ จะปรับเปลี่ยนตามฤดูกาล
ทางสวนละไมขอความกรุณาลูกค้าติดต่อสอบถามรายละเอียดกิจกรรม และวันที่เปิดกิจกรรมอีกครั้งทางช่องทาง
Call
Center รายละเอียดกิจกรรมภายในสวน
มีดังนี้
1. นั่งรถรางขึ้นชมสวนผลไม้ต่างๆบนภูเขา
2. จุดที่หนึ่ง แวะเที่ยวชมในสวนเงาะ สวนมังคุดพร้อมทานเครื่องดื่มและของว่างรองท้องที่อาคารในสวนเงาะ
พร้อมจุดชมวิวสวนผลไม้ และจุดถ่ายรูปสวยๆ ในบริเวณสวนเงาะ
3. จุดที่สอง ทานบุฟเฟ่ต์ผลไม้หลากหลายชนิด อาทิเช่น
ทุเรียน เงาะ มังคุด สละ ลองกอง และอื่นๆตามฤดูกาลค่ะ พร้อมด้วยข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ทอด
และของหวานต่างๆมากมาย ตามรายการที่สวนจัดเตรียมไว้ให้ ที่อาคารบุฟเฟ่ต์พร้อมบรรยากาศบนเขา
4. เที่ยวชมฟาร์มแกะบรรยากาศสุดชิล สัมผัสน้องแกะอย่างใกล้ชิด
สามารถเล่น ถ่ายรูป และป้อนหญ้าได้อย่างสนุกสนาน และเป็นกันเอง
ซึ่งกิจกรรมต่างๆจะ
ไม่จำกัดเวลา และมีรถรางบริการรับ-ส่ง ตามจุดบริการ และอาคารต่างๆ ตลอดทั้งวัน
สามารถมาซื้อบัตรที่หน้าสวนวันที่มาเที่ยวได้เลย
โดยไม่ต้องจองล่วงหน้า หากมาวันธรรมดาจะเที่ยวสบายสุดๆลูกค้าน้อย และพยายามหลีกเลี่ยงช่วงวันหยุดยาว เพราะลูกค้าเยอะ
และผลไม้มีจำนวนจำกัด ซึ่งทางสวนจะจำหน่ายบัตรตามปริมาณผลไม้ที่เตรียมไว้รองรับเท่านั้น
สำหรับราคาบัตรเข้าชมสวนละไมขึ้นอยู่กับราคาผลไม้ในแต่ละปี ซึ่งในปี 2560 มีราคาดังนี้
บัตรผู้ใหญ่ ราคา 450 บาท
บัตรเด็ก ราคา 250 บาท
– เด็กความสูงน้อยกว่า 100 ซม. = ฟรี
– เด็กความสูง 100-120 ซม. = 250 บาท
– เด็กความสูง 120 ซม. ขึ้นไป = 450 บาท
“กำนันไพโรจน์
ปิติพันธรัตน์” เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างความสำเร็จที่ได้จากโครงการสินเชื่อ
1 ตำบล 1 SME เกษตร 72,000 ล้านบาท ผ่านโครงการค้ำประกัน PGS5 ที่มีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันสินเชื่อ
การดำเนินธุรกิจที่ผ่านมา กำนันไพโรจน์ บอกว่า
เขาต้องใช้เงินทุนตัวเองทั้งหมด มีปัญหาเรื่องหลักทรัพย์ค้ำประกัน
โดยเฉพาะการไปใช้สินเชื่อจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน
5 ล้านบาท กระทั่งได้ บสย.เข้ามาช่วยค้ำประกันให้จำนวน 3.8 ล้านบาท จึงมีเงินมาเป็นทุนหมุนเวียน รับซื้อผลไม้จากเกษตรกรในเครือข่าย
เจ้าของสวนละไม ชี้ว่า แนวคิดการรับซื้อผลไม้ ที่มีคุณภาพ ในราคาที่เกษตรกรพอใจนั้นจะกลายเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรสร้างคุณภาพผลิตผลทางการเกษตร ก่อนจะมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรอย่างปัจจุบัน
กำนันไพโรจน์ เล่าว่า แต่เดิมพื้นที่แห่งนี้ เคยปลูกมันสำปะหลัง อ้อย เป็นพื้นที่ปลูกพืชล้มลุก
มีโรงงานเข้ามารับซื้อผลิตผล แต่เมื่อโรงงานย้ายออกไปแล้ว คนในชุมชนวังจันทร์ ก็หันมาปลูกยางพารา
ปาล์มน้ำมัน จาก 'สวน' แบบดั่งเดิม ปลูกเอง ขายเอง พัฒนาเป็นธุรกิจท่องเที่ยวเชิงเกษตร นำระบบบริหารจัดการซัพพลายเชนมาใช้ สุดท้ายเปิดให้นักท่องเที่ยว
ชม ช็อป ชิม บุฟเฟ่ต์ผลไม้ เมื่อไม่นานมานี้เอง
กำนันไพโรจน์ กล่าวว่า “เราไม่สามารถปลูกทุเรียนให้นักท่องเที่ยวกินเป็นแสนคนได้ หากจะมีทุเรียนรองรับนักท่องเที่ยวขนาดนี้ได้
ต้องปลูกทุเรียน ปลูกเงาะเป็นพันๆ ไร่ ผมจึงคิดโมเดลธุรกิจ
จัดตั้งเป็น วิสาหกิจชุมชน กระจายรายได้สนับสนุนเกษตรกรรายย่อย 40-50 ราย ให้รวมตัวกันเป็นเครือข่าย
โดยสวนละไมรับซื้อผลไม้ในพื้นที่กว่า 170 ตันต่อฤดูกาล มูลค่ารวมกว่า 11 ล้านบาท เพื่อมารองรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาชมสวน”
ในอนาคต สวนละไมยังไม่หยุดอยู่แค่นี้ เขาวางแผนต่อยอดธุรกิจ
เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมสวนชาอู่หลง อุทยานดอกไม้เหมืองหนาว และสวนสตอเบอรี่ "สวนละไมไม่ได้เดินไปคนเดียว ผมมีโครงการจับมือกับชาวบ้านในพื้นที่รัศมีไม่เกิน 3.5 กิโลเมตรห่างจากสวนละไม เปิดเป็นบ้านพักโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวเข้าพัก
รวมไปถึงปลูกป่าในพื้นที่ 200 ไร่ โดยให้นักท่องเที่ยวลงมือปลูกแต่ละต้นจะมีการสลักชื่อเอาไว้ด้วย"
สนใจติดต่อสอบถามหรือขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
สวนละไม (ระยอง) "อาณาจักรไม้ผล...ท่ามกลางขุนเขา"
ที่อยู่: 19/9 ถ.บ้านบึง-แกลง (สาย 344) ต.ป่ายุบใบ
อ.วังจันทร์ จ.ระยอง
Call Center: 098-737-4983, 098-737-4984, 098-737-4985
Facebook: สวนละไม / Suan Lamai
Website: www.suanlamai.com
E-mail: suanlamai@yahoo.com
**********************************
ติดตามข้อมูล
SME
เกษตร ธ.ก.ส. เพิ่มเติมได้ที่








ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น