“น้ำพริกป้าแว่น” สุดยอดโอทอป 5 ดาว จากน้ำพริกตลาดนัดสู่ห้างไฮโซ



ความเป็นมาธุรกิจ
               คุณป้าบังอร วันน้อย เจ้าของผลิตภัณฑ์  น้ำพริกป้าแว่น” เป็นอีกหนึ่งในลูกค้าคนเก่งของ ธ.ก.ส.  ที่ก่อนหน้านี้มีอาชีพทำไร่ทำนา แล้วพลิกชีวิตสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจน้ำพริก ได้เล่าถึงที่มาของความสำเร็จที่ต้องฝ่าฟันกับปัญหานานัปการว่า เมื่อก่อนใฝ่ฝันที่จะผลิตสินค้าไปขายในเซเว่นฯและห้างดังทั่วประเทศ แต่ไม่รู้จะขายอะไรดี ในตอนนั้นครอบครัวมีฐานะยากจน และต้องหาเงินส่งลูกเรียนหนังสือถึง 3 คน กระทั่งวันหนึ่งมีคนบอกว่าเราทำอาหารอร่อย น่าจะขายอาหารได้ จึงเริ่มต้นทำน้ำพริกไปขายตามตลาด ขายทั้งวัน กำไรบ้างขาดทุนบ้าง แต่ด้วยความพยายามและไม่ย่อท้อ ทำให้มีลูกค้าประจำมากมาย เจ้าของตลาดจึงตั้งชื่อให้ว่า น้ำพริกป้าแว่น”และในปัจจุบันนับได้ว่าเป็นผู้ประกอบการ SME ที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ และเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำได้ แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ก็ต้องต่อสู้กับปัญหาอุปสรรคต่างๆ มากมายไม่น้อย  และเคยเป็นหนี้หลายสิบล้าน  แล้วในวันหนึ่ง ธ.ก.ส. ก็ได้ช่วยโอบอุ้มธุรกิจของครอบครัวนี้  ให้เดินต่อไปได้จนกระทั่งในวันนี้ธุรกิจเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่า 40% ต่อปี

               ป้าแว่น ได้เล่าให้ทีมงาน ธ.ก.ส. ฟังถึงเรื่องราวในอดีตให้แก่บรรดาพนักงาน ธ.ก.ส. ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างภาคภูมิใจ  และรู้สึกขอบคุณธ.ก.ส.ทุกครั้งแก่คนที่สนใจในความเป็นมาในธุรกิจของคุณป้า  และทึ่งในความสามารถของผู้หญิงชาวบ้านคนหนึ่ง  ซึ่งในวันนี้สามารถพลิกชีวิตและดูแลธุรกิจน้ำพริกของตัวเองที่มีมูลค่ามากกว่าร้อยล้านบาทได้

               นอกจากนี้ป้าแว่น ยังได้เล่าให้ฟังอีกว่า เดิมเป็นเกษตรกร ทำนา เลี้ยงไก่ เลี้ยงหมู เหมือนกับชาวบ้านทั่วๆ ไป แต่ทว่า ไม่ประสบความสำเร็จ จึงลองเปลี่ยนมาตำน้ำพริกขาย เมื่อปี 2540 เพราะส่วนตัวเคยเป็นแม่ค้าขายน้ำพริกมาก่อน ผลตอบรับกลับมาดี ฝีมือน้ำพริกของป้าแว่น เริ่มเป็นที่รู้จักจากปากสู่ปาก ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ  และถึงแม้ป้าแว่นจะเป็นชาวบ้านระดับรากแก้ว การศึกษาไม่สูงมาก แต่หากได้ลองพูดคุยกับผู้หญิงคนนี้จะสัมผัสได้ถึงความเป็นคนมุ่งมั่น ใฝ่รู้ พยายามที่จะพัฒนาตัวเองไม่หยุด ดูได้จากที่เมื่อปี 2545 ป้าแว่นได้ตั้งกลุ่มอาชีพน้ำพริกปรุงรสขึ้น มีสมาชิกประมาณ 36 คน ส่งน้ำพริกเข้าประกวดสินค้าโอทอป โดยพัฒนาสินค้าให้ได้ทั้งรสชาติอร่อย และไม่ละเลยเรื่องมาตรฐานการผลิต และบรรจุภัณฑ์สวยงาม ซึ่งมักเป็นปัญหาของผู้ผลิตระดับชุมชนทั่วไป แต่ป้าแว่นตระหนักเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ทำให้ได้รับรางวัลโอทอป 5 ดาวเป็นคนแรกในจังหวัดชลบุรี จากกรมพัฒนาชุมชน ในปี 2546-2547 และได้ติดต่อมา 2 ครั้ง รวมแล้วได้โอทอป 5 ดาว 3 สมัยซ้อน
 
               ป้าแว่นยังเล่าให้ฟังต่อว่า เมื่อได้โอทอป 5 ดาวแล้ว คิดจะบุกตลาดอย่างจริงจัง อยากขายในห้างสรรพสินค้า จึงลองไปเสนอตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ด้วยตัวเอง ทำให้ได้วางขายในห้างแมคโคร ทุกสาขาทั่วประเทศ อีกทั้ง ยังทำตลาดฝากขายในร้านค้าเครือสหพัฒน์ ในโรงแรมแอมบาร์เดอร์ และปัจจุบันได้มีโอกาสนำน้ำพริกมาขายในร้านเซเว่นฯ ซึ่งทำให้ผู้คนโดยทั่วไปได้รู้จักกับน้ำพริกป้าแว่นอย่างแพร่หลาย
  

               ส่วนการเข้าไปขายในห้างสยามพารากอนนั้น อาจกล่าวได้ว่า เพราะสถานการณ์พาไป เนื่องจากทางกลุ่มฯ ได้คิดพัฒนาสินค้าใหม่ ทำเป็นน้ำพริกผงบรรจุซอง แบรนด์ ป้าแว่น” หวังวางขายตามห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อทั่วไป จึงได้ลองนำสินค้าเครื่องแกงผง เสนอฝ่ายจัดซื้อของห้างเดอะมอลล์ โดยแทนที่ทางห้างฯ จะแค่ให้วางสินค้าขาย กลับให้โอกาสมากกว่านั้น เสนอพื้นให้มาเปิดร้านขายในส่วนซูเปอร์มาร์เกตของสยามพารากอน ศูนย์การค้าที่ใหญ่สุดในประเทศ โดยคิดอัตราค่าเช่า เป็นการหัก 25% จากยอดขาย
               “ตอนแรกป้าก็ลังเล เพราะไม่อยากขึ้นมาอยู่กรุงเทพฯ แต่มาคิดอีกที เราได้โอกาส ซึ่งไม่ใช่ว่าจะได้กันง่ายๆ เลยลองมาขาย ส่วนเหตุผลที่ทางห้างฯ ให้โอกาสป้า ถ้าให้ลองวิเคราะห์เอง ป้าว่า เขาคงเห็นว่า เราเป็นคนตั้งใจจริง ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม และคงมั่นใจว่า รสชาติน้ำพริกน่าจะถูกใจผู้ได้ชิม” ป้าแว่น กล่าวและเล่าต่อว่า

               เริ่มขายในห้างสยามพารากอน เดือนสิงหาคม 2549 เดือนแรกขายยอดไม่ดีนัก แค่ประมาณเดือนละ 70,000 บาท เมื่อหักค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้ว แทบไม่เหลือกำไรเลย สาเหตุเชื่อว่า มาจากตอนนั้น จ้างพนักงานขาย ซึ่งขาดแรงจูงใจ ทำให้ป้าแว่นต้องลงมาขายด้วยตัวเอง โดยใช้วิธีสาธิตการตำน้ำพริกสดๆ ให้ลูกค้าได้เห็นกระบวนการผลิตอย่างชัดเจน ส่งผลให้ยอดขายแต่ละวันขยับขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อเดือนธันวาคม 2549 ที่ผ่านมา ยอดขายประมาณ 250,000 บาท

ผลิตภัณฑ์และจุดเด่นของผลิตภัณฑ์
               ป้าแว่นได้เล่าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์น้ำพริกที่วางจำหน่ายในห้างต่างๆและร้านเซเว่นฯว่า เริ่มจากการนำน้ำพริกแห้งเข้ามาวางขาย เช่น น้ำพริกตาแดง น้ำพริกนรกกุ้ง น้ำพริกลงเรือ น้ำพริกทะเล และน้ำพริกเห็ดหอมเจ และตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา ได้เริ่มนำน้ำพริกสดเข้ามาขายในตู้แช่เย็นเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวของประเทศไทยที่ขายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น โดยเริ่มจาก น้ำพริกเจ ขายในช่วงเทศกาลกินเจ ตามมาด้วย น้ำพริกกะปิ น้ำพริกปลาทู น้ำพริกปลาร้า และล่าสุด น้ำพริกปลาดุกฟู”
               น้ำพริกป้าแว่นที่วางขายในปัจจุบัน มีกว่า 32 ชนิด ได้แก่ น้ำพริกมะขาม , น้ำพริกมะม่วง , น้ำพริกไข่ปู , น้ำพริกลงเรือ ฯลฯ แต่ที่ขายดีที่สุด คือ น้ำพริกกุ้งเสียบ นอกจากนั้น ยังมีเครื่องเคียงต่างๆ อย่างปลาทู ปลาสลิด ขายด้วย โดยราคาไม่ได้แพงกว่าท้องตลาดทั่วไป เช่น น้ำพริกกะปิ ขีดละ 14 บาท น้ำพริกแกงป่า ขีดละ 16 บาท น้ำพริกกุ้งจ่อม ขีดละ 20 บาท เป็นต้น โดยกลุ่มลูกค้ามีทั้งชาวไทย และต่างประเทศ โดยเฉพาะบรรดาแม่บ้านมีฐานะ ถือเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ ขาประจำมาซื้อหาแทบทุกวัน


               ป้าแว่น อธิบายถึงเคล็ดลับความอร่อยของน้ำพริก คือ ใช้วัตถุดิบสดใหม่ ไม่มีสารเคมี ทุกอย่างต้องเป็นของแท้ นำมาจาก จ.ชลบุรี รสชาติกลมกล่อม เผ็ดกำลังดี ส่วนผสมแต่ละชนิดต้องคงตัว ไม่มากหรือน้อยเกินไป การตำต้องมีสมาธิแน่วแน่ และที่สำคัญจะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ที่จะปรุงแต่งผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมาเสมอๆ

 
การรับรองมาตรฐานและรางวัล
-          ได้รับรางวัลโอทอป 5 ดาวเป็นคนแรกในจังหวัดชลบุรี จากกรมพัฒนาชุมชน ในปี 2546-2547 และได้ติดต่อมา 2 ครั้ง รวมแล้วได้โอทอป 5 ดาว 3 สมัยซ้อน
-          เครื่องหมาย ฮาลาล
-          เครื่องหมาย อย.
-          เครื่องหมาย มผช.
-          ตราสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์
-          ตรารับรองจาก มก. ธ.ก.ส.
ช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์
               1. ห้างสยามพารากอน กรุงเทพมหานคร
               2. ห้างแม็คโค ทุกสาขา
               3. ห้างคาร์ฟู
               4. ห้างบิ๊กซี
               5. ตลาดสุวินทวงศ์ กรุงเทพมหานคร
               6. ท็อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ต ทุกสาขา
               7. ร้านเซเว่น อีเลเว่น (7-11) ทุกสาขาทั่วประเทศ
               8. ที่ทำการกลุ่มอาชีพน้ำพริกปรุงรส ตราป้าแว่น160/4 หมู่ 10 ตำบลท่าบุญมี อำเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี โทร 0-8159-03305 ,0-3816-6304
               9. ร้านค้าออนไลน์ต่างๆ เช่น ร้านค้าออนไลน์ของเซเว่นอีเลเว่น ร้านออนไลน์ของท็อปส์  Priceza OTOPtoday Thaitumbon และแฟนเพจเฟสบุค เป็นต้น

ติดต่อสอบถามและขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณป้าบังอร วันน้อย
ที่อยู่:  160/4 หมู่ 10 ตำบลท่าบุญมี อำเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี 20240
โทรศัพท์:   08-1590-3305


****************************************
ติดตามข้อมูล SME เกษตร ธ.ก.ส. เพิ่มเติมได้ที่
เฟสบุคแฟนเพจ  “SMAEs CLUB”  URL: https://m.facebook.com/smaesbaac/
เว็บไซต์ URL: https://smaesclub.com/




ความคิดเห็น